คุณดวงจันทร์ รูปแก้ว (ป้าดวง) เป็น มะเร็งเต้านม (รักษาแล้ว) แต่กลับมาพบว่าเป็นมะเร็งปากมดลูก อีกตอนแรกป่วยเป็นมะเร็งเต้านม ที่สุดท้ายต้องจบด้วยการตัดเต้านมออกเพื่อรักษาชีวิตไว้ แต่อีก 2 ปีต่อมา โรคร้ายได้กลับมาทำลายชีวิตของเธออีกครั้ง แต่ปัจจุบันเธอเป็นปกติแล้ว
พี่ธนธรณ์ อดีตเป็นมะเร็งตับ ท้องบวมทรมานมากทำงานไม่ได้ หมอบอกว่าเป็นท้องเสีย ปวดหลังเธอกลัวมากจึงขอตรวจก้อนเนื้อเพราะสามีเธอเคยเป็น แล้วเธอก็เจอว่าเป็นมะเร็งตับระยะสุดท้าย ตัดสินใจเกือบฆ่าตัวตาย โชคยังดีที่มาเจอสิ่งนี้ ขอแค่เปิดใจกับแพทย์ทางเลือก
คุณวลี ประจำเดือนมาไม่ปกติ เคยเป็นเนื้องอกในรังไข่ เป็นพังพึด เกิดจากภาวะการฝังตัวของประจำเดือนในรังไข่ พอได้ทานพอลิติน เรื่มมีเนื้อเยื่อบางๆหลุดออกมาเป็นก้อนๆ ปัจจุบันเธอหายดีแล้ว
การรักษาทางการแพทย์ แพทย์จะเป็นผู้ที่ตัดสินใจว่าจะรักษาแบบไหน ซึ่งแต่ละวิธีนั้น จะมีผลข้างเคียงจากการรักษาที่แตกต่างกันดังนี้
1. เคมีบำบัด (Chemotherapy)
คือ การรักษาด้วยยาเพื่อควบคุมหรือทำลายเซลล์มะเร็ง โดยการออกฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตและการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง และทำลายเซลล์มะเร็งโดยตรง และอาจมีผลข้างเคียงต่อเนื้อเยื่อปกติ
ระยะเวลาการรักษาทั่วไป : ขึ้นกับชนิดและระยะของโรคมะเร็ง และการตอบสนองของมะเร็งต่อตัวยา มักให้เป็นชุด ชุดละ 1-5 วัน ห่างกัน 3-4 สัปดาห์
2. รังสีรักษา (Radiation therapy)
คือ รักษาโดยใช้รังสีที่มีพลังงานสูง เช่น รังสีเอ็กซ์ รังสีแกมม่า หรือ อนุภาคที่มีพลังงานสูง เช่น อิเลคตรอน โปรตอน หรือ นิวตรอน โดยฉายรังสีในบริเวณที่เป็นโรคและครอบคลุมไปถึงต่อมน้ำเหลืองที่อาจมีโรคแพร่กระจายไปด้วย รังสีจะฆ่าเซลล์ที่เติบโตเร็ว เช่น เซลล์มะเร็ง แต่เซลล์ในร่างกายที่แบ่งตัวเร็ว เช่น เซลล์ผิวหนัง เซลล์เยื่อบุลำไส้ ก็มีโอกาสถูกทำลายด้วย
ระยะเวลาการรักษาทั่วไป : ฉายรังสี วันละ 1 ครั้ง ครั้งละ 5-15 นาที 5 ครั้งต่อสัปดาห์ จนครบได้ปริมาณรังสีตามแพทย์กำหนด (ประมาณ 10-35 ครั้ง)
3. การผ่าตัด (surgery)
มักทำในผู้ป่วยที่โรคมะเร็งยังอยู่เฉพาะที่ตำแหน่งเริ่มต้น (มะเร็งระยะที่ 1) หรือในบางกรณีเพียงกระจายไปเนื้อเยื่อข้างเคียงหรือลุกลามทะลุผ่านอวัยวะที่เป็นโพรง (ระยะที่ 2) เท่านั้น ฉะนั้นจะเห็นว่ามักมีการรักษาเสริมด้วยเคมีบำบัดหรือรังสีรักษา ซึ่งมีความสำคัญและเสริมให้ผลการผ่าตัดได้ผลดียิ่งขึ้น
บริษัท Graminex LLC ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์ของเราจึงได้ศึกษาวิจัยและคิดค้นวิธีการผลิต ผลิตภัณฑ์ละอองเกสรดอกไม้จาก โดยเริ่มจาการคัดเลือกเมล็ดพันธุ์พืชไม่มีการใช้ยาฆ่าแมลง และสารกำจัดวัชพืช
และขั้นตอนสุดท้ายทำการเก็บเกี่ยวละอองเกสรดอกไม้ด้วยเครื่องจักรที่ทันสมัย แล้วทำการสกัดละอองเกสรโดยกระบวการที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะ และกรองโดยวิธีเทคนิค ทำให้ปราศจากเชื้อ เพื่อกำจัดสารปนเปื้อน
และกำจัดสารก่อให้เกิดภูมิแพ้ และควบคุมคุณภาพด้วยการวิเคราะห์ความเข้มสารออกฤทธิ์, ขบวนการผลิต, ความคงตัวของผลิตภัณฑ์เพื่อกำหนดว้นหมดอายุของผลิตภัณฑ์, ควบคุมคุณภาพคุณสมบัติทางกายภาพ และคุณสมบัติทางเคมี ตลอดจนการประเมินผลระบบการบรรจุและภาชนะบรรจุภัณฑ์
ซึ่งขั้นตอนการผลิตทั้งหมดได้ผ่านการรับรองคุณภาพมาตรฐาน ISO 9002 และโรงงาน Graminex ได้ผ่านการรับรองขบวนการผลิตตามมาตรฐานสากล GMP รวมทั้งผลิตภัณฑ์ที่เป็นเภสัชภัณฑ์และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Pollitin ยังได้รับรางวัล E-Award สำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารส่งออกดีเยี่ยมของมลรัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา
Pollitin เป็นสารสกัดธรรมชาติคุณภาพสูง จากอณูละอองเกสรดอกไม้ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น NUTRACEUTICAL หรือสารอาหารบำบัด Pollitin มีการจำหน่ายไปกว่า 50 ประเทศใน 6 ทวีปทั่วโลก ยาวนานกว่า 50 ปี ขั้นตอนการผลิต เป็นไปตามข้อกำหนดขององค์การอนามัยโลก ได้รับค่า มาตรฐานเฉพาะผลิตภัณฑ์ระดับโลก คือ ORAC หรือ ค่าระดับความเข้มข้นของสารต้านอนุมูลอิสระ และค่า CAP-e Test หรือ ค่าความสามารถในการดูดซึมเข้าสู่เม็ดเลือดแดง ที่สูงมาก ทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่มีอยู่เกือบ 100%
นักวิจัยชาวสวีเดนได้ทำการศึกษาวิจัยพบว่า ละอองเกสรดอกไม้ประกอบด้วย สารที่มีความจำเป็นยิ่งยวดในการสร้างชีวิตใหม่ในตระกูลของพืชและยังเป็นพื้นฐานในวัฏจักรห่วงโซ่อาหาร ละอองเกสรดอกไม้ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า ประกอบด้วยสารอาหารหลากหลายชนิด รวมทั้งวิตามิน แร่ธาตุ, กรดอมิโน สารที่จำเป็นในการสังเคราะห์ อาร์ เอ็น เอ (RNA) และ ดี เอ็น เอ (DNA) สารที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ, เอนไซม์, กรดไขมันอิ่มตัว, สารที่เป็นตัวตั้งต้นในการสังเคราะห์โปรสตาแกรนติน ดังนั้น ละอองเกสรจึงเป็นอาหารที่เหมาะสำหรับใช้เพื่อประโยชน์ในการทำให้ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์, มีฤทธิ์บรรเทาอาการอ่อนเพลีย, ช่วยลดอาการซึมเศร้า, ทำให้ความผิดปกติของระบบทางเดินอาหารถูกแก้ไขให้ดีขึ้น, มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียบางชนิด, มีคุณสมบัติในการป้องกันและต่อต้านมะเร็งบางชนิด และมีผลเสริมสร้างภูมิต้านทานให้ร่างกาย
เราได้สารสกัดจากอณูเกสรข้าวไรย์จากพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดของมลรัฐโอไฮโอซึ่งมีขนาดใหญ่มากที่สุดในโลกถึง 6,500 เอเคอร์จากแหล่งผลิตแห่งนี้ เราได้ส่วนประกอบที่สำคัญสำหรับผลิตเวชภัณฑ์ โภชนเภสัชอาหารและเครื่องสำอางภายใต้กระบวนการเพาะปลูก เก็บเกี่ยวแปรรูปและจัดเก็บที่เชื่อถือได้
ขั้นตอนแรก การเก็บเกสร
การเก็บเกสรเริ่มต้นในช่วงระยะเวลาสั้นๆ เพียงสองสัปดาห์นี่คือที่แหล่งมาของ non-solvent Graminex Rye Grass Extract™ ของ Graminex® ฝ่ายเทคนิคภาคสนามของเราได้รับการฝึกอบรมเป็นอย่างดีในการควบคุมเครื่องเก็บเกี่ยวที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ เพื่อให้ได้ผลิตมากที่สุดในแต่ละพื้นที่ เครื่องเก็บเกี่ยวของ Graminex® มีระบบจ่ายผลิตลักษณะเฉพาะที่สามารถรักษาความสมบูรณ์ของผลผลิตและลดการสูญเสียเกสรให้มีน้อยที่สุด ผู้เชี่ยวชาญภาคสนามของเราจะมีการตรวจสอบพื้นที่เก็บเกี่ยวแต่ละแห่งอย่างใกล้ชิด เพื่อพิจารณาวันเก็บเกี่ยวที่เหมาะสม และแจ้งข้อมูลที่สำคัญนี้ต่อไปยังผู้ควบคุมเครื่อง
ขั้นตอนที่สอง ขั้นตอนการอบแห้งวัตถุดิบ
วัตถุดิบที่ยังเปียกอยู่จากไร่จะถูกขนส่งโดยรถของ Graminex® เพื่อป้อนถ่ายต่อไปตามขึ้นตอนการอบแห้งที่มีการควบคุมเป็นอย่างดี วัตถุดิบเปียกจะถูกขนถ่าย และจ่ายต่อไปด้วยรถยก ผู้ควบคุมเครื่องของ Graminex® ล้วนได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับมาตรฐาน cGMp ด้านการจัดการวัตถุดิบ วัตถุดิบจะถูกจ่ายไปยังถังอบแห้งโดยใช้ระบบกระจายวัตถุดิบที่มีการควบคุมเป็นอย่างดี เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานการควบคุมคุณภาพของ Graminex® เครื่องทำความร้อนเฉพาะแบบตั้งโปรแกรมได้จะทำหน้าที่ควบคุมอุณหภูมิและจ่ายอากาศไปยังถังอบแห้งแต่ละถัง เพื่อให้มีการควบคุมให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดอย่างต่อเนื่อง ในแต่ละขั้นตอน Graminex® จะมีการตรวจสอบและบันทึกข้อมูลวัตถุดิบเพื่อให้แน่ใจว่าวัตถุดิบมีคุณภาพสมบูรณ์เหมือนๆ กัน วัตถุดิบที่ผ่านการรับรองคุณภาพจะถูกจ่ายจากถังอบแห้งสำหรับการแปรรูปเพื่อให้ได้ละอองเกสรตามต้องการ
ขั้นตอนที่สาม การจัดเก็บและแปรรูป
Graminex® ใช้ระบบควบคุมอากาศบริเวณด้านบนของที่เก็บแต่ละจุดเพื่อให้วัตถุดิบสามารถเคลื่อนผ่านกระบวนการแปรรูปและส่วนการจัดเก็บได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยรับรองความจุในแต่ละปีมากกว่า 500 เมตริกตัน การจัดเก็บวัตถุดิบที่ผ่านการรับรองคุณภาพแล้ว มีปริมาณถึง 285,000 ลูกบาศก์ฟุต
โรงงานมาตรฐาน cGMP ขนาด 130,000 ตารางฟุตของเรา สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1997 สามารถรองรับปริมาณและปรับการทำงานได้ตามรูปแบบที่ต้องการได้อย่างครอบคลุมทั่วโลก โรงงานของเราตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของโอไฮโอใกล้กับแหล่งวัตถุดิบ Graminex® จึงสามารถควบคุมกระบวนการคัดสรรและการเพ าะปลูกวัตถุดิบได้อย่างเบ็ดเสร็จ
ขั้นตอนที่สี่ การแยกและผสมเกสร
วัตถุดิบจากพืชที่เหมาะสมจะถูกดูดเข้าผ่านอุปกรณ์กรองพิเศษโดยใช้ระบบจ่ายอากาศของ Graminex® เพื่อแยกละอองเกสรออกจากกันระบบปิดช่วยให้ความมั่นใจว่าจะไม่มีเกสรที่สูญหายไป ละอองเกสรที่ถูกแยกออกจาก....ถูกตรวจวัดในถุงเก็บซึ่งจะถูกเก็บไว้ในพื้นที่จัดเก็บเย็นเป็นขั้นตอนต่อไป ตั้งแต่ขั้นตอนจากไร่จนถึงสูตรสำเร็จ Graminex® สามารถควบคุมส่วนผสมทั้งหมดได้อย่างแม่นยำ สูตรการผลิตภายใต้มาตรฐานที่กำหนดของ Graminex Rye Grass Extract™ ถือเป็นองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่จำเป็นต่อสายงานด้านเวชภัณฑ์ โภชนเภสัชกลุ่มอาหาร เครื่องดื่มและเครื่องสำอาง ส่วนประกอบต่างๆของ Graminex Rye Grass Extract™ คิดค้นขึ้นสำหรับการใช้งานในรูปแบบต่างๆ
ขั้นตอนที่ห้า ห้องปฏิบัติการ
ห้องปฏิบัติการของ Graminex® ช่วยเพิ่มความมั่นใจด้านคุณภาพและการทดสอบว่าจะเป็นไปตามเงื่อนไขเฉพาะที่กำหนด อุปกรณ์ทดสอบช่วยรับประกันว่าจะได้คุณภาพของเกสรที่เหมือนๆกัน เกสรแต่ละชุดจะผ่านการทดสอบเพื่อให้แน่ใจว่าปราศจากสารพิษและยาฆ่าแมลง การทดสอบสารอาหารของ Graminex® เช่น กรดอะมิโน ไฟโตสเตอรอล ไอโซฟลาโวนส์ และกรดไขมัน ใช้วิธีการ HPLC และ UV-Spectrometry
ขั้นตอนที่หก การบรรจุขวดและบรรจุหีบห่อ – เราบรรจุเองในเมืองไทย
*** ส่วนประกอบของเราถูกคิดค้นขึ้นสำหรับวัตถุประสงค์ต่างๆเช่น เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยที่มีปัญหากับต่อมลูกหมาก ระบบภูมิคุ้มกันเพื่อดูแลสุขภาพสตรีซึ่งได้รับการสนับสนุนจากผลการวิจัยทางคลินิกกว่า 100 โครงการ ตั้งแต่ไร่จนถึงสู่สูตรสำเร็จ Graminex® คือผู้ผลิต non-solvent Graminex Rye Grass Extract™ ที่คุณมั่นใจได้