โรคเก๊าท์รักษาหายไหม!!

       อาการของโรคเก๊าท์มีลำดับขั้นตอน จากเริ่มต้นอาการน้อยๆ สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยยา แต่ในระดับที่เป็นมากขึ้นถึงขั้นปวด อาจต้องมีระยะเวลาในการควบคุมรักษา ไม่ให้กรดยูริกในเลือดสูง ซึ่งอาจต้องใช้เวลามากขึ้น รวมถึงถ้าดูแลตัวเองไม่ดี ไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ โรคก็อาจกำเริบขึ้นอีกได้ค่ะ

ดังนั้น หากมีอาการบอกเหตุ เช่น มีอาการอักเสบตามข้อ อาการบวมแดง ปวดร้อน ต้องรีบรักษาตามอาการ อย่าปล่อยให้เป็นเรื้อรังจนลุกลามไปถึงไต เพราะหากปล่อยไว้นานๆ อาจถึงขั้นไตเสื่อมได้ค่ะ

แต่ระยะเวลาในการรักษาโรคเก๊าท์แบบต่อเนื่องนั้น อาจต้องใช้เวลาถึง 5 ปี 10 ปี ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมที่กระตุ้นให้มีกรดยูริกในเลือดสูง ควบคุมการกิน และออกกำลังกาย ลดน้ำหนัก เป็นต้น ด้วยค่ะ

มาดูแล โรคเก๊าท์ ด้วยนวัตกรรม "ดีเค๊าท์" 

ผสมผสานสารสกัดคุณภาพที่มีส่วนช่วยแบบเข้มข้น ลดปวดข้อ บำรุงไต ลดยูริก แก้ไขที่ต้นเหตุของโรค มี อ.ย. ทานได้อย่างปลอดภัย

 

หาก .. มีอาการเหล่านี้!!
- โรคเก๊าท์
- ปวดทรมาน บวม แดง 
- ปวดตามข้อ เช่น ข้อมือ ข้อเท้า ข้อศอก  โดยเฉพาะ ข้อนิ้วเท้า!!
- ฉีดยาหมอหรือกินยาบ่อยๆ
- ข้อเสื่อม อักเสบ
- มีค่า กรดยูริกสูง
ไตเสื่อม จากโรคเก๊าท์

อย่านิ่งนอนใจ...
อันตราย เสี่ยง ภาวะ
 "ไตวาย" ...

 

โรคเก๊าท์ เป็นผลมาจากภาวะ กรดยูริกในเลือดสูง เมื่อมีกรดยูริกในปริมาณที่มากเกินไป ทำให้เกิดการตกผลึกตามข้อต่าง ๆ จนเกิดอาการปวดบวมตามข้ออย่างรุนแรงและอาการอื่น ๆ ของโรคตามมา 

อาการอาจเกิดขึ้นกับข้อต่อเดียวหรือหลายข้อต่อพร้อมกัน 
มักเกิดใน ผู้ชาย มากกว่า ผู้หญิง ค่ะ

แต่ใน ผู้หญิงหมดประจำเดือน จะมีฮอร์โมนเอสโตรเจนซึ่งจะช่วยขับกรดยูริกออกจากร่างกายลดลง ทำให้มีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคเก๊าท์มากได้เช่นกันค่ะ

(1) ถ้ากรดยูริก สะสมมากที่ข้อต่อ ก็จะเกิดอาการข้อต่ออักเสบ ปวด บวม แดง ร้อน บริเวณข้อต่อ

(2) ถ้ากรดยูริก สะสมที่ไต ก็จะเกิดเป็นโรคนิ่วในใตและเกิดอาการใตเสื่อม
(3) ถ้ากรดยูริก สะสมตามผิวหนัง จะส่งผลให้เกิดปุ่มนูนบนขึ้นตามผิวหนัง

 

ตุ่มโทฟัส  คือ การตกตะกอนของกรดยูริคจำนวนมาก สะสมจนเป็นตุ่มข้างในมีลักษณะเหลวสีขาวคล้ายยาสีฟัน

โรคเก๊าท์  หากปล่อยปละละเลยไม่รักษาอย่างจริงจังนาน 5 - 10 ปี ทำให้กรดยูริคสะสมอยู่ใต้ผิวหนังข้อ ใบหู ข้อนิ้วมือนิ้วเท้า ข้อเท้า ข้อศอก ระยะแรกยังไม่มีอาการเจ็บปวดหรือคัน ตุ่มจะโตขึ้นช้าๆ

ไม่ควรเจาะให้ตุ่มแตก แต่ส่วนใหญ่ ตุ่มจะแตกเอง กรดยูริคจะค่อยๆ ออกมาซึ่งกว่าจะออกหมดก็ใช้เวลานาน ทำให้เกิดแผลเรื้อรังนานเป็นปี ทำให้ดูไม่สวยงาม  และ อาจเกิดอาการกำมือไม่ได้ หรือถ้าเป็นที่ข้อเท้า นิ้วเท้า ก็อาจเดินไม่ได้

 

รู้ไหมว่า? กรดยูริกในเลือดสูง จะส่งผลเสียต่อสุขภาพมากมาย นอกจากอาการปวดข้อ (เก๊าท์) หลอดเลือดแดงที่เข้าสู่ไตจะหนาตัวขึ้น  ทำให้ไตทำงานไม่ดี มีโอกาสเกิดความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือด ไตรกลีเซอไรด์สูง น้ำตาลในเลือดสูงและเป็นโรคเบาหวานได้

และถ้าเป็นความดันโลหิตสูง จะทำให้หัวใจด้านซ้ายทำงานหนักและเกิดหัวใจโต มีความเสี่ยงสูงที่ กล้ามเนื้อหัวใจจะขาดเลือดไปหล่อเลี้ยง กล้ามเนื้อหัวใจตายและหัวใจวายได้ง่าย อีกด้วยค่ะ

 

สั่งซื้อสินค้า

1765 B
3350 B
9530 B

กรอกชื่อที่อยู่ในการจัดส่ง


ข้อมูลบัญชีธนาคาร
ชื่อบัญชี: ณิชชา ศรีทองจ้อย
ชื่อธนาคาร: ธนาคารไทยพาณิชย์
เลขบัญชี: 1712868839

กรุณาแนบหลักฐานการโอนเงิน